ทองคำแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน หลังดอลลาร์แข็งค่า

　　โดย Barani Krishnan

　　Investing.com – ราคาทองคำจะปลอดภัยที่ 1,700 ดอลลาร์หรือไม่นั่นยังคงเป็นคำถาม เมื่อพิจารณาว่าทองคำร่วงไปมากแค่ไหนในเวลาเพียงสองวัน

　　สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำเดือนสิงหาคม ในตลาดโคเม็กซ์ของนิวยอร์กปิดการซื้อขายในวันพุธที่ 27.40 ดอลลาร์หรือ 1.6% เป็น 1,736.0 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระดับต่ำสุดคือ 1,730.95 ดอลลาร์

　　เหลืออีกเพียง 30 ดอลลาร์ที่ทองคำจะร่วงสู่แนวรับที่ 1,600 ดอลลาร์

　　สุนิล คูมาร์ ดีซิท หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านเทคนิคของ skcharting.com กล่าวว่า การไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1,768 ดอลลาร์ออกไป จะทำให้ทองคำอยู่ภายใต้แรงกดดันโดยมุ่งเป้าไปที่ 1,722-$1,698 ดอลลาร์

　　ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ดุดันได้ทำให้ราคาทองคำแตะระดับต่ำสุดในเดือนกันยายน 2021

　　ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งติดตามเทียบค่าเงินดอลลาร์กับ 6 สกุลเงินหลัก พุ่งขึ้น 1.5% เป็น 107 จุดในวันพุธ ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2002 เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกจากเฟดที่เริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเช่นที่ตลาดได้ คาดการณ์ ไว้

　　ตลาดทองคำยังแย่ลงไปอีกท่ามกลางกระแสข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากเฟดที่ออกมาเรื่อย ๆ และราคาทองคำยังโดนฉุดรั้งจากนโยบายการเงินที่ใช้ควบคุมอัตราเงินเเฟ้อเนื่องจากผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางไม่ได้แสดงเ

　　อาการป่วยไข้ของทองคำยังเกิดขึ้นท่ามกลางการพูดคุยอย่างไม่หยุดหย่อนของเฟดเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย กระทิงทองคำได้รับบาดเจ็บเป็นเวลาหลายสัปดาห์จากอัตราเงินเฟ้อของเฟด เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางไม่ได้แสดงถึงความลดละในการที่จะดึงเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมายด้วยวิธีการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นสองเท่าก่อนสิ้นปี

　　เฟดเชื่อว่าการที่ เงินเฟ้อ ขึ้นสูงจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ตกอยู่ในอันตราย และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมจะเป็นหนทางเดียวที่จะสร้างสมดุลระหว่างราคาสูงกับการเติบโต จาก {{ecl- 108||รายงานการประชุม}} จากการประชุมนโยบายของธนาคารกลางเมื่อเดือนที่แล้ว

　　เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระหว่าง 0 ถึง 0.25% เป็นเวลาสองปีในช่วงการระบาดใหญ่ และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ในเดือนมีนาคมเท่านั้น นับแต่นั้นมาอัตราดังกล่าวอยู่ระหว่าง 1.5% ถึง 1.75% ธนาคารกลางกล่าวว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 40 ปีที่มากกว่า 8% ต่อปี และกลับสู่เป้าหมายที่ 2% ต่อปี

　　ตลาดคาดว่าเฟดจะผลักดันให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกสามในสี่เปอร์เซ็นต์ในเดือนนี้