ราคาเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากปรับตัวลงในวันก่อนหน้า

　　สรุป ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคําอ่อนตัวลงทําระดับต่ําสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,712.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่ราคา ทองคําจะปรับตัวขึ้น ในทันทีที่เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.5 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็น ระดับต่ําสุดในรอบ 26 เดือน ทั้งนี้ ดัชนี PMI ที่ต่ํากว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจกําลังหดตัวลง นั่นกระตุ้นความวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐใกล้เข้าสู่ภาวะถดถอย สถานการณ์ดังกล่าวกดดัน ดัชนีดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงแตะระดับต่ําสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 106.11 ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงแตะระดับต่ําสุดในรอบเกือบ 2 เดือนที่ 2.7% จากแรงซื้อ พันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จนเป็นปัจจัยหนุนทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยเพิ่ม ส่งผลให้ราคาทองคําพุ่งขึ้นทดสอบระดับสูงสุดในระหว่างวัน และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์บริเวณ 1,738.91 ติอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี สกุลเงินดอลลาร์ฟื้นตัวลดช่วงติดลบลงในช่วงปลายตลาด ขณะที่นักลงทุนบางส่วนกลับเข้าซื้อดอลลาร์ใน ฐานะสกุลเงินปลอดภัย พร้อมกับเทขายสินทรัพย์เสียงสะท้อนจากดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดมิติลิง 137.61 จุด หรือ -0.43%, ดัชนี S&P500 ปิด -0.93% และดัชนี Nasdaq ปิด - 1.87% นําโดยการ ปรับตัวสูงของหุ้นโซเชียลมีเดียและหุ้นเทคโนโลยีการโฆษณา (AdTech) ปัจจัยที่กล่าวกดดันให้เกิดแรงขายทํากําไรในตลาดทองคํา ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคําไม่เปลี่ยนแปลง สําหรับ วันนี้ไม่มีกําหนดการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

　　ราคาเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากปรับตัวลงในวันก่อนหน้า แต่หากระหว่างวันหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,757 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสอ่อนตัวลงเพื่อสร้างฐานราคา โดยหากราคาไม่สามารถยืน เหนือบริเวณแนวต้านแรกโซน 1,738 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ การขยับลงจะมีแนวรับระยะสั้นในโซน 1,707 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดแนวรับแรก แนวรับถัดไปจะอยู่ที่ 1,691 ดอลลาร์ต่อออนซ์

　　คําแนะนําเปิดสถานะขาย $1,737-1,757

　　จุดทํากําไรซื้อคืนทํากําไร $1,707-1,691

　　ตัดขาดทุนตัดขาดทุนสกานะขายหากผ่าน $1,757

　　บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International