น้ำมันร่วง มีโอกาสที่ข้อตกลงนิวเคลียร์ของอิหร่านจะช่วยเพิ่มอุปทาน

　　Investing.com - ราคาน้ำมันร่วงลงมากกว่า 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันอังคาร ซึ่งใกล้จะแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยได้รับแรงกดดันจากความคืบหน้าล่าสุดในการเจรจาเพื่อรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในปี 2015 ซึ่งจะทำให้เตหะรานสามารถกระตุ้นการส่งออกเข้าสู่ตลาดที่อุปทานมีความตึงตัวได้ในที่สุด

　　เมื่อวันจันทร์สหภาพยุโรปได้เสนอข้อความ “สุดท้าย” เพื่อรื้อฟื้นข้อตกลง โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรปกล่าวว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ จะต้องได้รับการอนุมัติจากสหรัฐฯ และอิหร่าน คาดว่าจะเกิดขึ้นภายใน “ไม่กี่สัปดาห์”

　　สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์1 ลดลง 1.34 ดอลลาร์หรือ 1.4% เป็น 95.31 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเวลา 08.15 GMTสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.25 ดอลลาร์หรือ 1.4% เป็น 89.51 ดอลลาร์

　　โดยการเจรจาดำเนินไปเป็นเวลาหลายเดือนและยังไม่ได้ข้อตกลง อย่างไรก็ตาม การส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านตามข้อมูลของเรือบรรทุกน้ำมันนั้นต่ำกว่าระดับที่กำหนดไว้ที่ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2018 เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ นำประเทศสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ดังนั้นข้อตกลงดังกล่าวอาจทำให้อุปทานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตามการรายงานของรอยเตอร์ส

　　ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเมื่อต้นปี เนื่องจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้ความกังวลด้านอุปทานเพิ่มขึ้น โดยน้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับ 139 ดอลลาร์ในเดือนมีนาคม ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

　　น้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงต่ำสุดที่ 92.78 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากคำเตือนของธนาคารแห่งอังกฤษเมื่อวันพฤหัสบดีที่กล่าวว่าภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในตอนนี้ได้เพิ่มความกลัวต่อการชะลอตัวในการใช้เชื้อเพลิง

　　ในอีกสัญญาณหนึ่งคือ การนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือนก.ค.ลดลง 9.5% จากปีก่อนหน้า ข้อมูลศุลกากรเผย โดยจีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก

　　ความสนใจล่าสุดของรายงานการจัดหาน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ จะอยู่ที่สถาบันอเมริกันปิโตรเลียมที่จะเปิดเผยก่อนในเวลา 20.30 GMT นักวิเคราะห์คาดว่าน้ำมันดิบคงคลังจะลดลงเล็กน้อยที่ 400,000 บาร์เรล