ราคาทองคําไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ ตลาดคาดเฟดจะขึ้นอัตรา "อย่างแข็งกร้าว"

　　สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 5.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ระหว่างวันราคาทองคําจะฟื้นตัวขึ้นโดยได้รับอานิสงค์เชิงบวกจากการอ่อนค่าของดัชนีดอลลาร์ ทั้งนี้ ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินเยนของญี่ปุ่นที่แข็งค่าขึ้น 15% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันพุธ หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น(BI) ได้ดําเนินการตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งการดําเนินการดังกล่าวถูกมองว่า เป็นสัญญาณล่วงหน้าที่บ่งชี้ว่า BOJ อาจเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราโดยตรง ขณะที่ดัชนี PP ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ของสหรัฐปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยลดลง 0.1% ในเดือนส.ศ. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนั่นทอนการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% หรือ 100 bp ในการประชุมกําหนดนโยบายการเงินวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ปัจจัยที่ระบุมา ช่วยหนุนให้ราคาทองคําฟื้นตัวขึ้นทดสอบระดับสูงสุดบริเวณ 1,706.86 ตอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดี ราคาทองคําไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ เนื่องจากโดยรวมแล้วตลาดยังคงคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย “อย่างแข็งกร้าว” ต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ จนเป็น ปัจจัยสําคัญที่สกัดช่วงบวกของราคาทองคําไว้ ด้านกองทุน SPDR ลดการถือครองทองคําลง -2.32 ต้น สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยยอดค้าปลีก, ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index). ผลสํารวจแนวโน้มธุรกิจจากเฟตฟิลาเดลเฟีย, จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน อัตราการใช้กําลังการผลิตและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐ

　　หลังจากราคาทิ้งตัวลงแรง ราคาพยายามแกว่งตัวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานราคา ระหว่างวันหากราคาทองคำไม่หลุด 1,692-1,688 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (1,688 ระดับต่ำสุดของเดือน ก.ย.) จะมีโอกาสดีดตัวขึ้นช่วงสั้น โดยประเมินแนวต้านบริเวณ 1,707-1,719 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากผ่านแนวต้านแรก กรอบด้านบนจะอยู่ที่ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระดับสูงสุดของสัปดาห์นี้

　　คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อ $1,688-1,676

　　จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,707-1,719

　　ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลุด $1,676

　　บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International